Pronouns ( คำสรรพนาม )
Types (ชนิดของคำสรรพนาม) ขอขอบคุณข้อมูล จาก http://www.montfort.ac.th
Pronoun ( คำสรรพนาม ) คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns- equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง หรือแทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร คำสรรพนาม (pronouns ) แยกออกเป็น 7 ชนิด คือ
- Personal Pronoun ( บุรุษสรรพนาม ) เช่น I, you, we, he , she ,it, they
- Possessive Pronoun ( สรรพนามเจ้าของ ) เช่น mine, yours, his, hers, its,theirs, ours
- Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี - self ลงท้าย เช่น myself, yourself,ourselves
- Definite Pronoun ( หรือ Demonstrative Pronouns สรรพนามเจาะจง ) เช่น this, that, these, those, one, such, the same
- Indefinite Pronoun ( สรรพนามไม่เจาะจง ) เช่น all, some, any, somebody, something, someone
- Interrogative Pronoun ( สรรพนามคำถาม ) เช่น Who, Which, What
- Relative pronoun ( สรรพนามเชื่อมความ ) เช่น who, which, that
|
1.Personal Pronouns ( บุรุษสรรพนาม ) คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของในการพูดสนทนา มี 3 บุรุษคือ
บุรุษที่ 1 | ได้แก่ตัวผู้พูด | I, we |
บุรุษที่ 2 | ได้แก่ผู้ฟัง | you |
บุรุษที่ 3 | ได้แก่ผู้ ที่พูดถึง สิ่งที่พูดถึง | he, she. it , they |
รูปที่สัมพันธ์กันของคำสรรพนาม
รูปประธาน | รูปกรรม | Possessive Form | Reflexive Pronoun |
Adjective | Pronoun |
I | me | my | mine | myself |
we | us | our | ours | ourselves |
you | you | your | yours | yourself |
he | him | his | his | himself |
she | her | her | hers | herself |
it | it | its | its | itself |
they | them | their | theirs | themselves |
เช่น
- I saw a boy on the bus. Heseemed to recognize me.
ฉันเจอเด็กคนหนึ่งบนรถประจำทาง เขาดูเหมือนจะจำฉันได้ ( Heในประโยคที่สองแทน a boyและ meแทน I ในประโยคที่หนึ่ง )
- My friend and her brother like to swim. They swim whenever they can.
เพื่อนฉันและน้องชายของเธอชอบว่ายน้ำ พวกเขาไปว่ายน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส ( they ในประโยคที่สอง แทน My friend และ her brother ในประโยคที่ 1 )
การใช้ Personal Pronouns ที่ทำหน้าที่เป็นประธานและเป็นกรรมมีหลักดังนี้
Personal Pronoun ที่ตามหลังคำกริยาหรือตามหลังบุพบท ( preposition ) ต้องใช้ในรูปกรรม เช่น
- Please tell him what you want. โปรดบอกเขาถึงสิ่งที่คุณต้องการ ( ตามหลังดำกริยา tell )
- Mr. Wilson talked with himabout the project.
คุณวิลสัน พูดกับเขาเกี่ยวกับโครงการ ( ตามหลังบุพบท with )
หมายเหตุ ถ้ากริยาเป็น verb to be สรรพนามที่ตามหลังจะใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรม ให้พิจารณาดูว่า สรรพนามใน ประโยคนั้นอยู่ในรูปผู้กระทำ หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่น- It was she who came here yesterday.
เธอคนนึ้ ที่มาเมื่อวานนี้ ( ใช้ she เพราะเป็นผู้กระทำ )
- It was herwhom you met at the party last night.
เธอคนนี้ที่คุณพบที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ (ใช้ her เพราะเป็นกรรมของ you met )
2. Possessive Pronouns ( สรรพนามเจ้าของ ) คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเมื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่คำต่อไปนี้
mine,ours, yours, his, hers,its,theirs - The smallest gift is mine. ของขวัญชิ้นที่เล็กที่สุดเป็นของฉัน
- This is yours. อันนี้ของคุณ
- Hisis on the kitchen counter. ของเขาอยู่บนเคาน์เตอร์ในครัว
- Theirs will be delivered tomorrow. ของพวกเขาจะเอามาส่งพรุ่งนี้
- Oursis the green one on the table . ของพวกเราคืออันสีเขียวที่อยู่บนโต๊ะ
possessive pronouns มีความหมายเหมือน possessive adjectives แต่หลักการใช้ต่างกัน- This is mybook.
นี่คือหนังสือของฉัน ( my ในประโยคนี้เป็น possessive adjective ขยาย book )
- This book is mine.
หนังสือนี้เป็นของฉัน ( mine ในประโยคนี้เป็น possessive pronoun ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ ( complement) ของคำกริยา is )
3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) คือสรรพนามที่แสดงตนเอง แสดงการเน้น ย้ำให้เห็นชัดเจน มักเรียกว่า -self form of pronoun ได้แก่
myself. yourself, yourselves, himself, herself, ourselves. themselves, itself มีหลักการใช้ดังนี้- ใช้เพื่อเน้นประธานให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำการนั้นๆ ให้วางไว้หลังประธานนั้น ถ้าต้องการเน้นกรรม (object ) ให้วางหลังกรรม เช่น
- She herself doesn't think she'll get the job.
- The film itself wasn't very good but I like the music.
- I spoke to Mr.Wilson himself.
- วางหลังคำกริยา เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง
- They blamed themselves for the accident.
พวกเขาตำหนิตนเองในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ( ตามหลังกริยา blamed )
- You are not yourself today.
วันนี้คุณไม่เป็นตัวของคุณเอง ( ตามหลังกริยา are )
- I don'twant you to pay for me. I'll pay for myself.
ฉันไม่อยากให้คุณเป็นคนจ่ายเงินให้ ฉันจะจ่ายของฉันเอง
- Julia had a great holiday. She enjoyed herself very much.
จูเลียมีวันหยุดที่ดี เธอสนุกมาก
- George cut himself while he was shaving this morning.
จอร์จทำมีดบาดตัวเองขณะทีโกนหนวดเมื่อเช้านี้
หมายเหตุ ปกติ จะใช้ wash/shave/dress โดยไม่มี myself- เมื่อต้องการจะเน้นว่า ประธานเป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นเอง
- Who repaired your bicycle for you? Nobody, I repaired it myself.
ใครซ่อมรถจักรยานให้คุณ. ไม่มีใครทำให้ฉันซ่อมเอง
- I'm not going to do it for you. You can do it yourself.
ฉันจะไม่ทำ( อะไรสักอย่างที่รู้กันอยู่ ) ให้นะ คุณต้องทำเอง
By myself หมายถึงคนเดียว มีความหมายเหมือน on my own เช่นเดียวกับคำต่อไปนี้
on ( my/your/his/ her/ its/our/their ) own มีความหมายเหมือนกับ by ( myself/yourself ( singular) /himself/ herself/ itself/ ourselves/ yourselves(plural)/ themselves )
เช่น
- I like living on my own/by myself.ฉันชอบใช้ชีวิตอยู่คนเ้ดียว
- Did you go on holiday on your own/by yourself? เธอไปเที่ยววันหยุดคนเดียวหรือเปล่า
- Learner drivers are not allowed to drive on their own/ by themselves.
ผู้ที่เรียนขับรถไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถด้วยตัวเองคนเดียว
- Jack was sitting on his own/by himselfin a corner of the cafe.
แจ๊คนั่งอยู่คนเดียวทีีมุมห้องในคาเฟ
4. Definite Pronouns หรือ Demonstrative Pronouns คือสรรพนามที่บ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด เช่น this, that, these, those, one, ones, such, the same, the former, the latter- That is incredible! นั่นเหลือเชื่อจริงๆ (อ้างถึงสิ่งที่เห็น)
- I will never forget this. ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย (อ้างถึงประสบการณ์เมื่อเร็วๆนี้)
- Suchis my belief. นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเชื่อ (อ้างถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ )
- Grace and Jane ar good girls. The formeris more beautiful than the latter.
เกรซและเจนเป็นเด็กดีทั้งคู่ แต่คนแรก (เกรซ)จะสวยกว่าคนหลัง (เจน)
5. Indefinite Pronouns ( สรรพนามไม่เจาะจง ) หมายถึงสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป มิได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้น คนนี้ เช่น
everyone | everybody | everything | some | each |
someone | somebody | all | any | many |
anyone | anybody | anything | either | neither |
no one | nobody | nothing | none | one |
more | most | enough | few | fewer |
little | several | more | much | less |
- Everybody loves somebody. คนทุกคนย่อมมีความรักกับใครสักคน
- Is there anyone here by the name of Smith? มีใครที่นีชื่อสมิธบ้าง
- One should always look both ways before crossing the street. ใครก็ตามควรจะมองทั้งสองด้านก่อนข้ามถนน
- Nobodywill believe him. จะไม่มีใครเชื่อเขา
- Little is expected. มีการคาดหวังไว้น้อยมาก
We, you, they ซึ่งปกติเป็น personal pronoun จะนำมาใช้เป็น indefinite pronoun เมื่อไม่เจาะจง โดยมากใช้ในคำบรรยาย คำปราศัย เช่น- We should prepare ourselves to deal with any emergency. เรา (โดยทั่วไป) ควรจะเตรียมพร้อมไว้เสมอสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน)
- You sometimes don't know what to say in such a situation. บางครั้งพวกคุณก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น.
6. Interrogative Pronouns ( สรรพนามคำถาม ) เป็นสรรพนามที่แทนนามสำหรับคำถาม ได้แก่ Who, Whom, What, Which และ Whoever, Whomever,Whatever,Whichever เช่น- Who want to see the dentist first? ใครอยากจะเข้าไปหาหมอฟันเป็นคนแรก? ( who ในที่นี้เป็นประธาน )
- Whomdo you think we should invite? เธอคิดว่าเราควรจะัเชิญใคร? ( whom ในที่นี้เป็นกรรม - object )
- To whomdo to wish to speak ? เธออยากจะพูดกับใคร? ( whom ในที่นี้เป็นกรรม - object )
- What did she say? เธอพูดว่าอะไรนะ? ( what เป็นกรรมของกริยา say )
- Whichis your cat ? แมวของเธอตัวไหน? ( which เป็นประธาน )
- Whichof these languages do you speak fluently? ภาษาไหนในบรรดาภาษาเหล่านี้ที่คุณพูดได้คล่อง? ( which เป็นกรรมของ speak )
- หมายเหตุ which และ what สามารถใช้เป็น interrogative adjective และ who, whom , which สามารถใช้เป็น relative pronoun ได้
7. Relative Pronouns ( สรรพนามเชื่อมความ ) คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้วในประโยคข้างหน้า และพร้อมกันนั้นก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคทั้งสอง ให้เป็นประโยคเดียวกัน เช่นคำต่อไปนี้ who, whom, which whose ,what, that , และ indefinite relative pronouns เช่น whoever, whomever,whichever, whatever- Children who (that)play with fire are in great danger of harm.
- The book that she wrote was the best-seller
- He's the man whosecar was stolen last week.
- She will tell you what you need to know.
- The coach will select whomever he pleases.
- Whoevercross this line will win the race.
- You may eat whatever you like at this restaurant.
|
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น